วิวัฒนาการแฟรนไชส์เกม The Sims จากเกมสร้างเมือง สู่เกมจำลองชีวิตจริงอันโด่งดัง
ถ้าพูดถึงเกมจำลองชีวิตที่สมจริงและได้รับความนิยมมากที่สุดคือเกมอะไร ทุกคนมักจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เกม The Sims นั่นเอง ซึ่งถือว่าเป็นเกมที่มีอายุยาวนานกว่า 20 ปี และได้มีการพัฒนาออกมาหลาย ๆ ภาค ย้อนกลับไปในปี 2000 ผู้พัฒนาก็ได้ออกเกมที่เน้นไปที่การจัดการชีวิตเล็ก ๆ น้อย ๆ ของใครบางคน โดยให้ผู้เล่นสามารถควบคุมพวกเขาให้ทำงานบ้าน ไปทำงาน และหาเพื่อนใหม่ กลายเป็นทั้งวิดีโอเกมและปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม ตอนนี้ The sims ภาคล่าสุดอยู่ที่ภาค 4 ซึ่งเราสามารถเล่น the sims 4 โหลดฟรี ได้จากหลายแหล่ง แม้ว่าจะไม่มีภาษาไทย แต่ก็มีไฟล์เสริมที่เป็นภาษาไทยให้เราด้วยเช่นกัน มาย้อนรอยดูประวัติศาสตร์ของหนึ่งในแฟรนไชส์เกมพีซีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาลกันได้เลย
จากเกมสร้างเมือง สู่แฟรนไชส์เกมจำลองชีวิตจริงที่โด่งดังไปทั่วโลก
- SimCity (1989)
SimCity เป็นเกมจำลองการสร้างเมือง ในช่วงเวลานั้นถือว่าเป็นเกมที่ไม่เหมือนใคร เป็นเกมที่ไม่มีการแพ้ชนะ ไม่ได้มีเนื้อหาที่น่าติดตามเหมือนกับเกมทั่ว ๆ ไป หลังจากประสบปัญหาในการเผยแพร่เกมนี้ Will Wright ก็ได้ร่วมก่อตั้งบริษัท Maxis ร่วมกับ Jeff Braun ผู้ประกอบการที่ต้องการบุกเข้าไปในอุตสาหกรรมวิดีโอเกม ในปี 1989 Maxis ได้เผยแพร่เกม SimCity ทำให้ความนิยมของเกมเริ่มเพิ่มขึ้น และในปี 1992 มีเกมยอดขายถึงหนึ่งล้าน SimCity ได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และแฟน ๆ และได้รับรางวัลมากมาย อีกทั้งยังถูกใช้ในชั้นเรียนการวางผังเมืองและวิชารัฐศาสตร์อีกด้วย
- The Sims (2000)
เกิดเหตุโศกนาฏกรรมกับครอบครัวของ Wright ทำให้พวกเขาสูญเสียบ้านจากไฟไหม้ในช่วงต้นยุค 90 เมื่อพวกเขาเริ่มจัดการกับข้าวของต่าง ๆ Wright ก็สงสัยว่าทำไมผู้คนถึงซื้อของ พวกเขาคิดว่าการซื้อของจะตอบสนองความต้องการของพวกเขามากพอที่จะทำให้พวกเขามีความสุขหรือไม่ หลังจากที่ EA เข้าซื้อกิจการ Maxis แล้ว Wright ก็ได้รับมอบหมายให้ทำงานเป็นทีมเพื่อพัฒนาเกม The Sims อย่างเต็มรูปแบบ เกมวางจำหน่ายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2000 เกม The Sims ให้เราสร้างและควบคุมครอบครัวได้ผ่านชีวิตประจำวันของพวกเขา ด้วยยอดเงินในบัญชีเริ่มต้น 20,000 Simoleons (§) ซิมส์สามารถซื้อที่ดินว่างเปล่า หรือสร้างและตกแต่งบ้านของตนเองได้ ผู้เล่นจึงมีอิสระที่จะทำตามใจชอบ ซิมส์มีความต้องการพื้นฐาน 8 อย่างที่จำเป็นต้องมีการจัดการ และพวกเขาก็สามารถหางานทำ สร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และเสียชีวิตได้
เพื่อที่จะใช้ประโยชน์จากความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของ The Sims และสร้างความพึงพอใจให้กับฐานผู้เล่นที่กำลังเรียกร้องให้มีภาคเสริมเข้ามา Maxis ได้เริ่มเปิดตัวภาคเสริมที่มีธีมต่าง ๆ ภาคเสริมเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยวัตถุใหม่ ๆ รูปแบบสถาปัตยกรรม และกลไกการเล่นเกมใหม่ ๆ เกม The Sims เกมแรกมีชุดเสริมทั้งหมด 7 ภาค
- The Sims 2 (2004)
เหล่าซิมส์ตอนนี้มีบุคลิก พวกเขามีความทรงจำ มีความต้องการและความกลัวที่ชัดเจน รวมถึงเป้าหมาย (ปณิธาน) สูงสุดตลอดชีวิตของพวกเขา ปณิธานของซิมส์อาจเป็นครอบครัว หน้าที่การงาน เงิน หรืออำนาจ ซิมส์จะจดจำเหตุการณ์สำคัญในชีวิตทั้งด้านบวกและด้านลบ และหากพวกเขาบรรลุเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง พวกเขาจะมีชีวิตที่มีความสุขและอายุยืนยาวขึ้น
แต่การเปลี่ยนแปลงที่ใหญ่ที่สุดของ The Sims 2 คือ การเพิ่มพันธุกรรม ใน The Sims ภาคก่อนไม่มีการรับประกันว่าเด็กจะมีลักษณะคล้ายกับพ่อแม่ ใน The Sims 2 หลังจากที่ซิมส์ร่วมรัก (วู้ฮู้) กันเสร็จ ซิมเพศหญิงก็สามารถตั้งครรภ์ได้ และผลลัพธ์ที่ได้นั้นไม่เพียงแต่จะสืบทอดลักษณะภายนอกจากพ่อแม่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงบุคลิกภาพอีกด้วย ซิมส์ต้องผ่านช่วงชีวิตทั้งหมด 6 ช่วง โดยแต่ละช่วงจะมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร หลังจากที่เปิดตัวเกมไปได้ไม่นาน ก็มีการเปิดตัวภาคเสริม 8 ชุดสำหรับ The Sims 2 และในขณะที่ภาคเสริมต่าง ๆ เช่น Pets และ Bon Voyage มีสไตล์และเนื้อหาที่คล้ายคลึงกันมากกับภาคเสริมของภาค 1 แต่ภาคเสริมส่วนใหญ่ของ The Sims 2 ได้ทำการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเกม เช่น การเพิ่มสภาพอากาศ เวทมนตร์ มหาวิทยาลัย เป็นต้น
- The Sims 3 (2009)
ในเกมภาคก่อน เมื่อเราต้องการส่งซิไปที่ใดที่หนึ่ง เช่น พื้นที่ชุมชน เราจะพบหน้าจอโหลดระหว่างสองพื้นที่ แต่ใน The Sims 3 สิ่งที่เราต้องทำคือ เพียงแค่ซูมออกจากบ้านของซิม และเราก็จะอยู่ในแผนที่ละแวกบ้าน โดยไม่ต้องเห็นหน้าจอโหลดอีกต่อไป เพื่อให้เดอะซิมส์ 3 รู้สึกเหมือนเป็นโลกที่มีชีวิตจริง ๆ จึงมีฟีเจอร์ใหม่ที่เรียกว่า Story Progression ซึ่งหมายความว่า ซิมทุกคนในละแวกบ้านจะใช้ชีวิตต่อไปโดยที่เราไม่ต้องควบคุมหรือสั่ง นั่นหมายความว่าซิมส์บางคน แม้กระทั่งคนในครอบครัวที่เราสร้างขึ้น อาจตาย สร้างความสัมพันธ์ใหม่ หรือแม้แต่มีลูกได้เอง EA ได้ออกภาคเสริม 11 ชุดสำหรับ The Sims 3 ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับแรงบันดาลใจจากภาคเสริมของภาคก่อนหน้า ดังนั้นเกมจึงมีภาคเสริม เช่น สัตว์เลี้ยง ฤดูกาล วันหยุดหรรษา มหาวิทยาลัย และอื่น ๆ
- The Sims 4 (2014)
เนื่องจากผู้พัฒนาต้องการให้ The Sims 4 ได้รับความนิยม ฟีเจอร์ใหม่ที่ใหญ่ที่สุดคือ SmartSim ซึ่งหมายถึงการแสดงอารมณ์ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัว โหมดบิลด์และซื้อถูกรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียว และเราสามารถปรับแต่งรูปลักษณ์ของซิมได้ตามต้องการ ถึงแม้จะมีการปรับปรุงบางอย่าง แต่หลาย ๆ อย่างยังคงขาดหายไปใน The Sims 4 ช่วงเด็กวัยหัดเดิน ซึ่งเป็นช่วงชีวิตที่ขาดหายไปอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเกมเปิดตัว สระว่ายน้ำที่เป็นแกนหลักของเดอะซิมส์ตั้งแต่ภาคแรกก็ไม่มีให้ใช้เช่นกัน โลกที่กว้างใหญ่และไร้รอยต่อที่เปิดตัวใน The Sims 3 ก็ไม่มีอีกแล้ว ไม่มีชั้นใต้ดิน ร้านขายของชำ หรือพื้นที่ชุมชน โรงเรียน ที่ทำงาน ปรากฏอยู่บนแผนที่ละแวกบ้าน
The Sims 4 มีภาคเสริมเพียง 4 ชุดตั้งแต่เปิดตัว โดยภาคเสริมล่าสุดคือ Cats and Dogs ภาคเสริมส่วนใหญ่ได้นำเสนอกลไกการเล่นเกมแบบใหม่ เช่น ทักษะการเลี้ยงลูก และแวมไพร์ด้วย ฟีเจอร์ที่แฟน ๆ ร้องขอจำนวนมากที่หายไป เช่น เด็กวัยหัดเดินและสระว่ายน้ำ ก็ได้รับการแก้ไขแล้วในที่สุด เกมดังกล่าวมี Stuff Packs 12 ชุด โดยจะมีการพัฒนาฟีเจอร์ถัดไป นั่นคือ Laundry Day Stuff อันเป็นผลมาจากคะแนนโหวตของแฟน ๆ นั่นเอง ใครที่อยากลองเล่นภาคนี้พร้อมกับภาคเสริมแบบครบเซต ก็สามารถเล่น the sims 4 โหลดฟรี รับความสนุกพร้อมความสมจริงได้แบบฟรี ๆ
เห็นได้ว่าพัฒนาการของแฟรนไชส์เกมจำลองชีวิตอย่าง The Sims นั้นถือว่าทำได้ดีมาก ๆ ถ้าใครที่เล่นตั้งแต่ภาคแรกก็จะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่า ตัวซิมมีความสมจริงมากยิ่งขึ้น บางคนอาจจะเห็นว่าเป็นเกมง่าย ๆ และน่าเบื่อ แต่ถ้าได้เล่นจริง ๆ ก็จะรู้ว่าเกมมีอะไรให้ทำมากกว่านั้น เราต้องจัดการกับซิมของเราให้มีความสุขและสามารถเลือกเส้นทางชีวิตของซิมๆได้หลากหลายมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีเกมเสริมออกมาอีกมากมาย เช่น The Sims Medieval (2011) และ The Sims Freeplay (2011) ซึ่งเป็นเกมซิมส์ที่เล่นผ่านมือถือได้ ยังคงมีการอัปเดตอยู่ตลอด และแตกต่างจากเกมหลักตรงที่มันทำงานตามเวลาจริง ไม่มีการเร่งความเร็วขึ้น หนึ่งนาทีในโลกแห่งความเป็นจริงเท่ากับหนึ่งนาทีในเกมนั่นเอง
รับข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เกมออนไลน์
ติดตามข่าวสารอื่นๆได้ที่ : https://casinoeing.net/ | http://godufabet.com/